เครื่องผลิตออกซิเจน 5 ลิตร Kroeber 4.0 (Premium)
1. เป็นสินค้าเกรดที่ใช้ทางการแพทย์ (Medical grade) เกรดที่ใช้ทางการแพทย์ ความเข้มข้นของออกซิเจนยังคงที่ได้ค่ามาตรฐาน 93% (±3%)
2. Kroeber 4.0 (Premium) เป็นสินค้านำเข้าจากประเทศเยอรมัน ทนทาน ใช้งานง่าย ได้รับการรับรองมาตรฐานที่เชื่อถือได้ DIN EN ISO 13485:2003, EN ISO 13485:2016 โรงงานผู้ผลิตมีความน่าเชื่อถือ
3. มีไส้กรองอากาศ 3 ชั้น มีระบบไส้กรองอากาศแบบ Hepa Filter สามารถกรองไวรัส แบคทีเรีย และฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ป่วยและผู้ใช้งาน
4. มีอายุการใช้งานนานยาวนานถึง 30,000 ชั่วโมง สารซีโอไลท์ (zeolite) ที่เป็นสารผลิตออกซิเจนบริสุทธิ์เป็นเกรด High Quality จึงทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น (ปกติเครื่องทั่วไปมีอายุการใช้งานเพียงแค่ 10,000 ชั่วโมง)
5. Kroeber 4.0 (Premium) เป็นรุ่นเสียงเบา เสียงเงียบ (ระดับเสียง ≤ 31 dB) เสียงไม่ดังรบกวนเวลานอนหลับ
6. ใช้กำลังไฟน้อย (กำลังไฟ 295 วัตต์) ช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้า
7. วัสดุเกรดพรีเมียม การออกแบบสวยงาม ทันสมัย
8. มีระยะรับประกันนานถึง 3 ปี มีศูนย์ให้บริการในประเทศไทยที่มีทีมช่างเทคนิคให้บริการพร้อมให้คำปรึกษาวิธีการใช้งาน บริการตลอด 24 ชั่วโมง มีบริการเครื่องสำรองให้ใช้ฟรีระหว่างรอซ่อม
รายละเอียดคุณสมบัติ
1. อัตราการไหลออกซิเจน
0 - 2 ลิตร / นาที สามารถปรับค่าความละเอียดครั้งละ 0.1 (ปรับค่าได้ละเอียดเหมาะสำหรับใช้งานกับเด็กเล็ก เด็กทารก)
2 - 4 ลิตร / นาที สามารถปรับค่าได้ความละเอียดครั้งละ 0.2
4 - 5 ลิตร / นาที สามารถปรับค่าได้ความละเอียดครั้งละ 0.5
2. ปรับค่าได้ละเอียดแม่นยำด้วยดิจิตอลโฟลมิเตอร์ (Real Time Digital Flow Meter)
ความละเอียดในการปรับอัตราการไหล 0.1 (0.1 - 2 ลิตร/นาที)
ค่าความละเอียดในการปรับอัตราการไหล 0.2 (2 - 4 ลิตร/นาที)
ค่าความละเอียดในการปรับอัตราการไหล 0.5 (4 - 5 ลิตร/นาที)
3. ความเข้มข้นออกซิเจนได้ค่าตามมาตรฐานการแพทย์
อัตราการไหล 1 - 4 ลิตร/นาที 93% +/- 3%
อัตราการไหล 4 - 5 ลิตร/นาที 90% +/- 3%
4. ระบบปฏิบัติการเรียลไทม์ดิจิตอลโฟลมิเตอร์ (Real Time Digital Flow Meter)
5. กระบอกสารซีโอไลท์สารผลิตออกซิเจนบริสุทธิ์ใช้ได้นานถึง 30,000 ชั่วโมง
6. มีไส้กรองอากาศ 3 ชั้น มีระบบกรองแบบ Hepa Filter สามารถกรองละเอียด กรองไวรัส แบคทีเรีย ฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm 2.5 เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน
7. หน้าจอแสดงผลรวมชั่วโมงการใช้งาน และแรงดันขณะเปิดเครื่องผลิตออกซิเจน
8. กำลังไฟ 295 วัตต์
9. สามารถใช้กับไฟฟ้าตามบ้าน ไฟฟ้ากระแสสลับ 230V 50Hz
10. ระดับเสียงการทำงานของเครื่องไม่เกิน 31 เดซิเบล
11. ขนาด 535 x 203 x 520 มม. (ไม่รวมล้อ)
12. น้ำหนัก 16 กิโลกรัม
13. อัตราการไหลสูงสุด 55 kPa หรือ 7.97 PSI
14. ระดับการป้องฝุ่นและน้ำของเครื่อง : IP21
15. อุณหภูมิขณะทำงาน +5℃ ถึง +40℃ อุณหภูมิที่เก็บรักษา -25℃ ถึง +70℃
16. หน้าจอแสดงผล Error Code ตามสาเหตุต่างๆ
17. มีระบบรักษาความปลอดภัย Firesafe
18. ระบบป้องกันไฟฟ้าโดยมีฟิวส์ทั้งหมด 3 ตัว เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
19. มีสัญญานแจ้งเตือนเมื่อไฟฟ้าขัดข้องและความดันผิดปกติ
20. มีสัญญานแจ้งเตือนเมื่อเครื่องผลิตออกซิเจนเปิดนานเกินไป เครื่องมีความร้อนสะสม ไฟฟ้าขัดข้อง อัตราการไหลของออกซิเจนผิดปกติ และระบบการทำงานของเครื่องผิดปกติ
21. มีสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อระดับออกซิเจนตํ่ากว่ามาตรฐานการแพทย์, เมื่อความดันสูงหรือตํ่าผิดปกติ, เมื่อระบบทำงานผิดพลาด, เมื่อไม่มีไฟฟ้าเข้าตัวเครื่องเช่นปลั๊กไฟหลุดหรือหลวม
22. คอมเพรสเซอร์มีระบบป้องกันความร้อน
ของแถมจัดเต็ม (อุปกรณ์พร้อมใช้งาน)
1. คู่มือการใช้งาน 1 ชุด
2. Firesafe 1 ชุด
3. สาย Oxygen tube 0.33 เมตร 1 เส้น
4. สาย Oxygen tube 2 เมตร 1 เส้น
5. สาย Oxygen tube 15 เมตร 1 เส้น
6. ชุดไส้กรองอากาศแบบหยาบ 5 ชุด
7. กระปุกให้ความชื้น 1 อัน
8. แถมฟรี สายเสียบจมูก 5 เมตร 1 เส้น
9. แถมฟรี สายเสียบจมูก 2 เมตร 1 เส้น
10. แถมฟรี น้ำกลั่นทางการแพทย์ 500 ml. 2 ขวด
11. แถมฟรี ชุดดักความชื้นส่วนเกิน 1 ชุด
12. แถมฟรี เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว 1 เครื่อง

การรับประกันสินค้า
1. สินค้ารับประกัน 3 ปี
2. มีศูนย์ซ่อมบริการ 24 ชั่วโมง พร้อมให้คำปรึกษาวิธีการใช้งาน
3. อุ่นใจด้วยบริการหลังการขาย (มีเครื่องสำรองให้ใช้ฟรีระหว่างรอซ่อม) หมดปัญหากังวลใจไม่มีเครื่องใช้ตอนรอซ่อม
4. บริการถึงสถานที่ (Onsite Service) เฉพาะในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล
5. กรณีต่างจังหวัด บริการรับเครื่องและวางเครื่องสำรองในระยะประกัน 3 ปี
การจัดส่งและชำระเงิน
1. จัดส่งฟรีทั่วประเทศ
2. บริการชำระเงินปลายทาง
3. ยินดีรับบัตรเครดิตทุกธนาคาร (ไม่มีค่าธรรมเนียม)
4. มีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปแนะนำสาธิตวิธีการใช้งานให้ที่บ้าน (เขตกรุงเทพฯและปริมณฑล)
5. ต่างจังหวัดจะเป็นการส่งวิดิโอแนะนำสาธิตวิธีการใช้งานให้




เลขที่ใบอนุญาตโฆษณา : ฆพ.2327/2563
เครื่องผลิตออกซิเจน (Oxygen Concentrator)
เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อใช้บำบัดผู้ป่วยที่มีภาวะพร่องออกซิเจน ผู้ป่วยที่ต้องการได้รับออกซิเจนเสริมอย่างต่อเนื่อง
ผู้ป่วยที่เมื่อวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนจากปลายนิ้ว (SpO2) ได้ค่าน้อยกว่า 90% จำเป็นจะต้องได้รับการให้ออกซิเจนเสริม ผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคมะเร็งปอด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease: COPD) โรคถุงลมโป่งพอง (Pulmonary emphysema) และโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง (Chronic bronchitis) ไข้หวัด โควิด-19 เป็นต้น
เครื่องผลิตออกซิเจนสำหรับใช้ในบ้านแบ่งออกเป็นขนาดต่างๆ ตามสเปกของเครื่องผลิตออกซิเจน อัตราการไหลของปริมาณออกซิเจนต่อนาที จำเป็นต้องเลือกเครื่องผลิตออกซิเจนให้มีความเหมาะสมในการใช้งาน ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ว่าผู้ป่วยควรจะต้องให้ออกซิเจนในอัตรากี่ลิตร/นาที เพื่อพิจารณาว่าควรจะเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนอย่างไรขนาดไหนถึงจะเหมาะสมกับผู้ป่วย นอกจากนี้ผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องพ่นยาด้วยหรือไม่ ถ้าหากผู้ป่วยต้องพ่นยาในระหว่างทำการรักษาก็จำเป็นต้องเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนที่มีฟังก์ชั่นพ่นยาในตัว และยังต้องคำนึงถึงอุปกรณ์ที่ใช้กับผู้ป่วย เช่น ถ้าเป็นเคสที่ผู้ป่วยเจาะคอใช้อุปกรณ์สายงวงช้าง (Corrugated Tube) ก็อาจจะต้องเลือกเครื่องผลิตออกซิเจนที่มีแรงดันสูงชนิด 20PSI เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 3 ลิตร หมายถึง เครื่องผลิตออกซิเจนที่เปิดได้สูงสุด 3 ลิตร หรือมีอัตราการไหลของปริมาณออกซิเจนสูงสุดที่ 3 ลิตร/นาที ส่วนใหญ่จะใช้กับอุปกรณ์ nasal cannula (สายเสียบจมูก)
เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 5 ลิตร หมายถึง เครื่องผลิตออกซิเจนที่เปิดได้สูงสุด 5 ลิตร หรือมีอัตราการไหลของปริมาณออกซิเจนสูงสุดที่ 5 ลิตร/นาที ส่วนใหญ่จะใช้กับอุปกรณ์ nasal cannula (สายเสียบจมูก)
เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 6 ลิตร หมายถึง เครื่องผลิตออกซิเจนที่เปิดได้สูงสุด 6 ลิตร หรือมีอัตราการไหลของปริมาณออกซิเจนสูงสุดที่ 6 ลิตร/นาที สามารถใช้กับอุปกรณ์ nasal cannula (สายเสียบจมูก) หรืออุปกรณ์หน้ากากออกซิเจนชนิดต่างๆ Simple face mask, Partial-rebreathing mask หรือ Non-rebreathing mask
เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 8 ลิตร หมายถึง เครื่องผลิตออกซิเจนที่เปิดได้สูงสุด 8 ลิตร หรือมีอัตราการไหลของปริมาณออกซิเจนสูงสุดที่ 8 ลิตร/นาที ส่วนใหญ่จะใช้กับอุปกรณ์หน้ากากออกซิเจนชนิดต่างๆ Simple face mask, Partial-rebreathing mask หรือ Non-rebreathing mask
เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 10 ลิตร หมายถึง เครื่องผลิตออกซิเจนที่เปิดได้สูงสุด 10 ลิตร หรือมีอัตราการไหลของปริมาณออกซิเจนสูงสุดที่ 10 ลิตร/นาที ส่วนใหญ่จะใช้กับอุปกรณ์หน้ากากออกซิเจนชนิดต่างๆ Simple face mask, Partial-rebreathing mask หรือ Non-rebreathing mask
เครื่องผลิตออกซิเจน 8-10 ลิตร ชนิดแรงดันสูงพิเศษ 20 PSI เครื่องผลิตออกซิเจนชนิดนี้จะใช้งานได้ครอบคลุมกับทุกๆอุปกรณ์สามารถนำไปใช้กับผู้ป่วยเจาะคอต่อเข้ากับอุปกรณ์ท่องวงช้าง (Corrugated Tube) และบางครั้งจะใช้ร่วมกับกระปุกแบบปรับระดับ% ให้ความชื้นเพื่อช่วยในการละลายเสมหะที่ข้นเหนียวของผู้ป่วยเจาะคอ ข้อควรระวังในการเลือกเครื่องผลิตออกซิเจนสำหรับผู้ป่วยเจาะคอที่ใช้อุปกรณ์ท่องวงช้างก็คือ ถ้าใช้เครื่องผลิตออกซิเจน 8-10 ลิตรแบบแรงดันธรรมดาจะทำให้ระดับออกซิเจนไม่เพียงพอต่อประสิทธิภาพการรักษา
เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 3-10 ลิตร เป็นขนาดที่นิยมใช้ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ ผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หรือโรคอื่นๆ ที่มีปัญหาทางเดินหายใจ เหนื่อยหอบ ที่กลับมาพักฟื้นดูแลที่บ้านโดยจะให้ออกซิเจนโดยผ่านสายเสียบจมูกซึ่งแพทย์จะแนะนำว่าควรปรับอัตราการไหลอยู่ที่กี่ลิตร/นาที แต่ในปัจจุบันการให้ออกซิเจนเสริมก็นิยมใช้ในคนทั่วไปที่มีอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ การให้ออกซิเจนในปริมาณเล็กน้อย ระยะเวลาไม่นาน เพื่อให้รู้สึกสดชื่น นอนหลับได้ง่ายขึ้นก็เป็นที่นิยมในปัจจุบันมากขึ้น
เครื่องผลิตออกซิเจนประเภทสำหรับใช้ในบ้านจะใช้พลังงานไฟฟ้าเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป หากต้องให้ออกซิเจนในเวลากลางคืนช่วงเวลานอนควรเลือกเครื่องที่เสียงเบาจะได้ไม่รบกวนเวลานอนพักผ่อน และในบางเคสที่แพทย์สั่งให้ต้องรับออกซิเจนเป็นเวลานานหลายชั่วโมงต่อวัน อาจทำให้ต้องเปิดเครื่องตลอดทั้งวันทั้งคืน ก็ควรเลือกเครื่องรุ่นที่ประหยัดพลังงาน กินไฟน้อยจะช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้า
วิธีเลือกเครื่องผลิตออกซิเจนอย่างไรดี
1. เครื่องผลิตออกซิเจนเกรดทางการแพทย์ จะสามารถผลิตออกซิเจนที่มีความบริสุทธิ์ มากกว่า 90% (-3%) ที่ระดับการจ่ายออกซิเจนสูงสุด เพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการรักษาผู้ป่วย
2. อายุการใช้งานที่ยาวนาน เครื่องผลิตออกซิเจนแต่ละรุ่นจะมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ต่ำสุด 10,000 ชั่วโมง 12,000 ชั่วโมง 20,000 ชั่วโมง จนไปถึง 30,000 ชั่วโมง อายุการใช้งานของเครื่องจะขึ้นอยู่กับคุณภาพและปริมาณของสารซีโอไลท์ (zeolite) ซึ่งจะถูกบรรจุอยู่ในกระบอกด้านหลังของตัวเครื่อง ทำหน้าที่ในการการดูดซับไนโตรเจนออกจากอากาศเพื่อผลิตออกซิเจนบริสุทธิ์ออกมา หากเครื่องผลิตออกซิเจนหมดอายุการใช้งานจะมีสัญญาณไฟเตือนให้เปลี่ยนกระบอกสารซีโอไลท์ (zeolite)
3. ชนิดของไส้กรองอากาศ ปัจจัยที่สำคัญในการกำหนดคุณภาพและราคาของเครื่องผลิตออกซิเจนก็คือ "ไส้กรองอากาศ" ซึ่งในปัจจุบันจะมีหลายเกรดเรียงตามคุณภาพได้ดังนี้ ไส้กรองแผ่นกระดาษธรรมดา ไส้กรองชนิดฟองน้ำละเอียด ไส้กรองชนิด HEPA Filter ที่เป็นเกรดคุณภาพสูงสุด กำหนดเป็นมาตรฐานของยุโรปและอเมริกา ไส้กรองชนิด HEPA Filter จะมีราคาแพงแต่ให้ความปลอดภัยกว่าไส้กรองอากาศชนิดอื่นๆ สามารถกรองเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรียและฝุ่น PM 2.5
4. ต้องมีตัวตรวจสอบความเข้มข้นของออกซิเจน (Oxygen Monitor) เครื่องผลิตออกซิเจนที่ดีต้องสามารถผลิตออกซิเจนที่มีความเข้มข้นที่ได้มาตรฐานตลอดเวลา มากกว่า 90% (-3%) ดังนั้นเครื่องต้องมีตัวตรวจสอบ%ความเข้มข้นของออกซิเจนที่ปล่อยออกมา และมีสัญญาณเตือนเมื่อความเข้มข้นออกซิเจนลดลงต่ำกว่าค่ามาตรฐาน
5. มีอัตราการกินไฟต่ำ โดยให้ดูจากอัตราการกินไฟ (วัตต์ต่อชั่วโมง) ให้เลือกเครื่องที่มีอัตราการกินไฟต่ำ จะได้ประหยัดค่าไฟฟ้า
6. ต้องสามารถเปิดใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน
7. เครื่องผลิตออกซิเจนเสียงเบา จำเป็นที่จะต้องเลือกเครื่องผลิตออกซิเจนรุ่นที่เสียงเบา เสียงเงียบ โดยเฉพาะหากต้องเปิดในช่วงเวลากลางคืนก็ควรเลือกเครื่องผลิตออกซิเจนรุ่นที่เสียงเบาที่สุดจะได้ไม่รบกวนผู้ป่วยเวลานอนหลับ โดยดูได้จากค่าระดับเสียงซึ่งมีหน่วยวัดเป็นเดซิเบล
การดูแลรักษาเครื่องออกซิเจน
1. ควรตั้งเครื่องผลิตออกซิเจนไว้ในบริเวณที่โล่งหรือที่ให้ลมผ่านสะดวก ควรวางห่างจากกำแพง อย่างน้อย 1 ฟุต ไม่ควรวางเครื่องผลิตออกซิเจนไว้ชิดกำแพง ห้ามวางเครื่องบนโฟม ฟูก พรม และหลีกเลี่ยงการวางเครื่องผลิตออกซิเจนในพื้นที่ที่ไม่สามารถถ่ายเทอากาศได้ดี
2. การเปิดปิดเครื่องผลิตออกซิเจนแต่ละครั้งควรเว้นระยะเวลาให้เครื่องเซ็ตอัพอย่างน้อย 5 นาที
3. ก่อนใช้ฟังก์ชั่นพ่นยาต้องปรับระดับอัตราการไหลของออกซิเจนเป็น 0 ลิตรต่อนาที ก่อนทุกครั้ง
4. เครื่องผลิตออกซิเจนจะไม่สามารถทำงานได้ ในกรณีไฟฟ้าดับหรือไม่มีไฟฟ้า
5. เครื่องผลิตออกซิเจนจะไม่สามารถทำงานได้ ในกรณีกระแสไฟฟ้าตกเกิน 10% จากกระแสไฟที่จ่าย
6. ในกรณีที่ไม่ใช้งานเครื่องผลิตออกซิเจนควรดึงปลั๊กไฟออกทุกครั้ง
7. ในกรณีเคลื่อนย้ายเครื่องผลิตออกซิเจนต้องวางเครื่องผลิตออกซิเจนในแนวตั้งเท่านั้น และถอดกระป๋องนํ้าให้ความชื้น ออกจากเครื่องทุกครั้ง
8. ในกรณีเครื่องผลิตออกซิเจนมีปัญหาขัดข้องหรือไม่สามารถใช้งานได้ กรุณาติดต่อบริษัทฯ ผู้จัดจำหน่าย
9. ควรหมั่นทำความสะอาดภายนอกเครื่องผลิตออกซิเจนโดยใช้ผ้าชุบนํ้าหมาดๆ เช็ดให้ทั่วและใช้นํ้ายาฆ่าเชื้อ เช็ดอีกครั้งอย่างสมํ่าเสมอ
10. ควรทำความสะอาดไส้กรองข้างเครื่องผลิตออกซิเจนทุกสัปดาห์ โดยล้างนํ้าและผึ่งลมให้แห้ง
11. ควรเปลี่ยนไส้กรองในเครื่องผลิตออกซิเจนอย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน (ติดต่อบริษัทฯ ผู้จัดจำหน่าย)
คลิกชมสินค้าทั้งหมด


