บริการจัดส่งทั่วประเทศในราคา ปลีก-ส่ง

เครื่องผลิตออกซิเจน 5 ลิตร รุ่นประหยัดไฟ เสียงเบา พ่นยาได้ ยี่ห้อ Canta VH5-N (ECO)
รหัส : Canta VH5-N (Eco) รับประกัน 2 ปี
เครื่องผลิตออกซิเจนสำหรับผู้ป่วย ขนาด 5 ลิตร (Oxygen Concentrator 5 LPM) ยี่ห้อ Canta VH5-N(ECO) รุ่นประหยัดไฟฟ้า กินไฟน้อย มีฟังก์ชั่นพ่นยาในตัว เสียงเบา (ระดับเสียง ≤ 45 dB) รับประกัน 2 ปี มีบริการหลังการขาย มีเครื่องสำรองให้ใช้ฟรีในระหว่างรอซ่อม
จาก24,900.00 บาท
ราคา 
19,900.00
 บาท
จำนวน:  
- +

เครื่องผลิตออกซิเจน 5 ลิตร ยี่ห้อ Canta รุ่น VH5-N (ECO) รุ่นเสียงเบา ประหยัดไฟฟ้า

 

 1. เป็นสินค้าเกรดที่ใช้ทางการแพทย์ (Medical grade) เกรดที่ใช้ทางการแพทย์ ความเข้มข้นของออกซิเจนยังคงที่ได้ค่ามาตรฐาน 93% (±3%) 

 

 2. เป็นรุ่นประหยัดพลังงาน ช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้า (กำลังไฟ 285 วัตต์)

 

 3. มีอายุการใช้งาน 10,000 ชั่วโมง 

 

 4. เสียงเบา ระดับเสียงการทำงานของเครื่อง ≤ 45 dB 

 

 5. มีฟังก์ชั่นพ่นยาในตัว (พ่นยาด้วยอากาศจากภายนอก)

 

 6. มีระยะรับประกัน 2 ปี มีศูนย์ให้บริการในประเทศไทยที่มีทีมช่างเทคนิคให้บริการพร้อมให้คำปรึกษาวิธีการใช้งาน บริการตลอด 24 ชั่วโมง มีบริการเครื่องสำรองให้ใช้ฟรีระหว่างรอซ่อม 
 

 

 

รายละเอียดคุณสมบัติหลัก

 

 1. อัตราการไหลของออกซิเจน   0.5-5 ลิตร/นาที

 

 2. ความเข้มข้นของออกซิเจนได้ค่าตามมาตรฐานทางการแพทย์  93 +- 3%

 

 3. ระบบปรับ Flowmeter Digital Dial สามารถปรับได้อย่างละเอียดครั้งละ 0.1 ลิตร/ต่อนาที

 

 4. จอแสดงผลแบบดิจิตอลตอล LED

 

 5. มีการแสดงผลเวลาที่เปิดเครื่อง ณ ปัจจุบัน

 

 6. มีการแสดงผลยอดรวมชั่วโมงการทำงานของตัวเครื่อง

 

 7. มีฟังก์ชั่นการตั้งเวลาเปิด-ปิดเองอัตโนมัติ สามารถตั้งได้สูงสุด 5 ชั่วโมง

 

 8. มีฟังก์ชั่นพ่นยาในตัว สามารถพ่นละอองยาได้ มีอุปกรณ์พ่นยามาให้แบบครบเซ็ท

 

 9. มีไส้กรองอากาศแบบละเอียด 2 ชั้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกรองฝุ่นละอองได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของผู้ใช้งาน

 

 10. มีไฟแสดงสถานะการทำงานของตัวเครื่อง, ไฟแสดงสถานะ O2 , ไฟการแจ้งเตือน Arm

 

 11. สามารถระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม มีช่องระบายอากาศ 3 ทิศทาง ซ้าย - ขวา - ด้านล่างของตัวเครื่อง ลดปัญหาเครื่องร้อน เครื่องน็อคเมื่อเปิดเครื่องนานๆ ปัญหาเครื่องน็อคจากสาเหตุเมื่อมีความร้อนสะสมภายในตัวเครื่อง

 

 12. เป็นรุ่นประหยัดพลังงาน ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า ใช้กำลังไฟเพียง 285 วัตต์

 

 13. สามารถใช้ไฟฟ้าตามบ้าน ใช้กระแสไฟสลับ  230V+- 10%  50Hz

 

 14. เสียงเบา ระดับเสียงไม่เกิน 45 เดซิเบล

 

 15. ขนาดกะทัดรัด 375x252x520 มม.

 

 16. น้ำหนักเบา สะดวกในการขนย้าย 14.3 กก.

 

 

ของแถมจัดเต็ม (อุปกรณ์พร้อมใช้งาน)

 

 1. คู่มือการใช้งาน 1 ชุด

 2. ชุดอุปกรณ์พ่นยา 1 ชุด

 3. ชุดไส้กรองอากาศสำรอง 1 อัน

 4. กระปุกให้ความชื้น 1 อัน

 5. แถมฟรี สายเสียบจมูก Oxygen Cannula 5 เส้น

 6. แถมฟรี น้ำกลั่นทางการแพทย์ 500 ml. 2 ขวด

 7. แถมฟรี ชุดดักความชื้นส่วนเกิน 1 ชุด

 8. แถมฟรี เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว 1 เครื่อง

 

 

 

การรับประกันสินค้า

 

 1. สินค้ารับประกัน 2 ปี

 2. มีศูนย์ซ่อมบริการ 24 ชั่วโมง พร้อมให้คำปรึกษาวิธีการใช้งาน

 3. อุ่นใจด้วยบริการหลังการขาย (มีเครื่องสำรองให้ใช้ฟรีระหว่างรอซ่อม) หมดปัญหากังวลใจไม่มีเครื่องใช้ตอนรอซ่อม

 4. บริการถึงสถานที่ (Onsite Service) เฉพาะในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล

 5. กรณีต่างจังหวัด บริการรับเครื่องและวางเครื่องสำรองในระยะประกัน 2 ปี

 

 

การจัดส่งและชำระเงิน

 

 1. จัดส่งฟรีทั่วประเทศ

 2. บริการชำระเงินปลายทาง

 3. ยินดีรับบัตรเครดิตทุกธนาคาร (ไม่มีค่าธรรมเนียม)

 4. มีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปแนะนำสาธิตวิธีการใช้งานให้ที่บ้าน (เขตกรุงเทพฯและปริมณฑล) 

 5. ต่างจังหวัดจะเป็นการส่งวิดิโอแนะนำสาธิตวิธีการใช้งานให้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เลขที่ใบอนุญาตโฆษณา : ฆพ.2044/2563

 

 

 

เครื่องผลิตออกซิเจน (Oxygen Concentrator

 

เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อใช้บำบัดผู้ป่วยที่มีภาวะพร่องออกซิเจน ผู้ป่วยที่ต้องการได้รับออกซิเจนเสริมอย่างต่อเนื่อง
ผู้ป่วยที่เมื่อวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนจากปลายนิ้ว (SpO2) ได้ค่าน้อยกว่า 90% จำเป็นจะต้องได้รับการให้ออกซิเจนเสริม ผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคมะเร็งปอด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease: COPD) โรคถุงลมโป่งพอง (Pulmonary emphysema) และโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง (Chronic bronchitis) ไข้หวัด โควิด-19 เป็นต้น

 

เครื่องผลิตออกซิเจนสำหรับใช้ในบ้านแบ่งออกเป็นขนาดต่างๆ ตามสเปกของเครื่องผลิตออกซิเจน อัตราการไหลของปริมาณออกซิเจนต่อนาที จำเป็นต้องเลือกเครื่องผลิตออกซิเจนให้มีความเหมาะสมในการใช้งาน ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ว่าผู้ป่วยควรจะต้องให้ออกซิเจนในอัตรากี่ลิตร/นาที เพื่อพิจารณาว่าควรจะเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนอย่างไรขนาดไหนถึงจะเหมาะสมกับผู้ป่วย นอกจากนี้ผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องพ่นยาด้วยหรือไม่ ถ้าหากผู้ป่วยต้องพ่นยาในระหว่างทำการรักษาก็จำเป็นต้องเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนที่มีฟังก์ชั่นพ่นยาในตัว และยังต้องคำนึงถึงอุปกรณ์ที่ใช้กับผู้ป่วย เช่น ถ้าเป็นเคสที่ผู้ป่วยเจาะคอใช้อุปกรณ์สายงวงช้าง (Corrugated Tube) ก็อาจจะต้องเลือกเครื่องผลิตออกซิเจนที่มีแรงดันสูงชนิด 20PSI เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

 

เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 3 ลิตร หมายถึง เครื่องผลิตออกซิเจนที่เปิดได้สูงสุด 3 ลิตร หรือมีอัตราการไหลของปริมาณออกซิเจนสูงสุดที่ 3 ลิตร/นาที ส่วนใหญ่จะใช้กับอุปกรณ์ nasal cannula (สายเสียบจมูก) 

 

เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 5 ลิตร หมายถึง เครื่องผลิตออกซิเจนที่เปิดได้สูงสุด 5 ลิตร หรือมีอัตราการไหลของปริมาณออกซิเจนสูงสุดที่ 5 ลิตร/นาที ส่วนใหญ่จะใช้กับอุปกรณ์ nasal cannula (สายเสียบจมูก) 

 

เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 6 ลิตร หมายถึง เครื่องผลิตออกซิเจนที่เปิดได้สูงสุด 6 ลิตร หรือมีอัตราการไหลของปริมาณออกซิเจนสูงสุดที่ 6 ลิตร/นาที สามารถใช้กับอุปกรณ์ nasal cannula (สายเสียบจมูก) หรืออุปกรณ์หน้ากากออกซิเจนชนิดต่างๆ Simple face mask, Partial-rebreathing mask หรือ Non-rebreathing mask

 

เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 8 ลิตร หมายถึง เครื่องผลิตออกซิเจนที่เปิดได้สูงสุด 8 ลิตร หรือมีอัตราการไหลของปริมาณออกซิเจนสูงสุดที่ 8 ลิตร/นาที ส่วนใหญ่จะใช้กับอุปกรณ์หน้ากากออกซิเจนชนิดต่างๆ Simple face mask, Partial-rebreathing mask หรือ Non-rebreathing mask

 

เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 10 ลิตร หมายถึง เครื่องผลิตออกซิเจนที่เปิดได้สูงสุด 10 ลิตร หรือมีอัตราการไหลของปริมาณออกซิเจนสูงสุดที่ 10 ลิตร/นาที ส่วนใหญ่จะใช้กับอุปกรณ์หน้ากากออกซิเจนชนิดต่างๆ Simple face mask, Partial-rebreathing mask หรือ Non-rebreathing mask

 

เครื่องผลิตออกซิเจน 8-10 ลิตร ชนิดแรงดันสูงพิเศษ 20 PSI เครื่องผลิตออกซิเจนชนิดนี้จะใช้งานได้ครอบคลุมกับทุกๆอุปกรณ์สามารถนำไปใช้กับผู้ป่วยเจาะคอต่อเข้ากับอุปกรณ์ท่องวงช้าง (Corrugated Tube) และบางครั้งจะใช้ร่วมกับกระปุกแบบปรับระดับ% ให้ความชื้นเพื่อช่วยในการละลายเสมหะที่ข้นเหนียวของผู้ป่วยเจาะคอ ข้อควรระวังในการเลือกเครื่องผลิตออกซิเจนสำหรับผู้ป่วยเจาะคอที่ใช้อุปกรณ์ท่องวงช้างก็คือ ถ้าใช้เครื่องผลิตออกซิเจน 8-10 ลิตรแบบแรงดันธรรมดาจะทำให้ระดับออกซิเจนไม่เพียงพอต่อประสิทธิภาพการรักษา 

 

เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 3-10 ลิตร เป็นขนาดที่นิยมใช้ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ ผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หรือโรคอื่นๆ ที่มีปัญหาทางเดินหายใจ เหนื่อยหอบ ที่กลับมาพักฟื้นดูแลที่บ้านโดยจะให้ออกซิเจนโดยผ่านสายเสียบจมูกซึ่งแพทย์จะแนะนำว่าควรปรับอัตราการไหลอยู่ที่กี่ลิตร/นาที แต่ในปัจจุบันการให้ออกซิเจนเสริมก็นิยมใช้ในคนทั่วไปที่มีอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ การให้ออกซิเจนในปริมาณเล็กน้อย ระยะเวลาไม่นาน เพื่อให้รู้สึกสดชื่น นอนหลับได้ง่ายขึ้นก็เป็นที่นิยมในปัจจุบันมากขึ้น 

 

เครื่องผลิตออกซิเจนประเภทสำหรับใช้ในบ้านจะใช้พลังงานไฟฟ้าเหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป หากต้องให้ออกซิเจนในเวลากลางคืนช่วงเวลานอนควรเลือกเครื่องที่เสียงเบาจะได้ไม่รบกวนเวลานอนพักผ่อน และในบางเคสที่แพทย์สั่งให้ต้องรับออกซิเจนเป็นเวลานานหลายชั่วโมงต่อวัน อาจทำให้ต้องเปิดเครื่องตลอดทั้งวันทั้งคืน ก็ควรเลือกเครื่องรุ่นที่ประหยัดพลังงาน กินไฟน้อยจะช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้า 

 

 

 

วิธีเลือกเครื่องผลิตออกซิเจนอย่างไรดี
 

1. เครื่องผลิตออกซิเจนเกรดทางการแพทย์ จะสามารถผลิตออกซิเจนที่มีความบริสุทธิ์ มากกว่า 90% (-3%) ที่ระดับการจ่ายออกซิเจนสูงสุด เพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการรักษาผู้ป่วย
 

2. อายุการใช้งานที่ยาวนาน เครื่องผลิตออกซิเจนแต่ละรุ่นจะมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ต่ำสุด 10,000 ชั่วโมง 12,000 ชั่วโมง 20,000 ชั่วโมง จนไปถึง 30,000 ชั่วโมง อายุการใช้งานของเครื่องจะขึ้นอยู่กับคุณภาพและปริมาณของสารซีโอไลท์ (zeolite) ซึ่งจะถูกบรรจุอยู่ในกระบอกด้านหลังของตัวเครื่อง ทำหน้าที่ในการการดูดซับไนโตรเจนออกจากอากาศเพื่อผลิตออกซิเจนบริสุทธิ์ออกมา หากเครื่องผลิตออกซิเจนหมดอายุการใช้งานจะมีสัญญาณไฟเตือนให้เปลี่ยนกระบอกสารซีโอไลท์ (zeolite)
 

3. ชนิดของไส้กรองอากาศ ปัจจัยที่สำคัญในการกำหนดคุณภาพและราคาของเครื่องผลิตออกซิเจนก็คือ "ไส้กรองอากาศ" ซึ่งในปัจจุบันจะมีหลายเกรดเรียงตามคุณภาพได้ดังนี้ ไส้กรองแผ่นกระดาษธรรมดา ไส้กรองชนิดฟองน้ำละเอียด ไส้กรองชนิด HEPA Filter ที่เป็นเกรดคุณภาพสูงสุด กำหนดเป็นมาตรฐานของยุโรปและอเมริกา ไส้กรองชนิด HEPA Filter จะมีราคาแพงแต่ให้ความปลอดภัยกว่าไส้กรองอากาศชนิดอื่นๆ สามารถกรองเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรียและฝุ่น PM 2.5 
 

4. ต้องมีตัวตรวจสอบความเข้มข้นของออกซิเจน (Oxygen Monitor) เครื่องผลิตออกซิเจนที่ดีต้องสามารถผลิตออกซิเจนที่มีความเข้มข้นที่ได้มาตรฐานตลอดเวลา มากกว่า 90% (-3%) ดังนั้นเครื่องต้องมีตัวตรวจสอบ%ความเข้มข้นของออกซิเจนที่ปล่อยออกมา และมีสัญญาณเตือนเมื่อความเข้มข้นออกซิเจนลดลงต่ำกว่าค่ามาตรฐาน
 

5. มีอัตราการกินไฟต่ำ โดยให้ดูจากอัตราการกินไฟ (วัตต์ต่อชั่วโมง) ให้เลือกเครื่องที่มีอัตราการกินไฟต่ำ จะได้ประหยัดค่าไฟฟ้า
 

6. ต้องสามารถเปิดใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน
 

7. เครื่องผลิตออกซิเจนเสียงเบา จำเป็นที่จะต้องเลือกเครื่องผลิตออกซิเจนรุ่นที่เสียงเบา เสียงเงียบ โดยเฉพาะหากต้องเปิดในช่วงเวลากลางคืนก็ควรเลือกเครื่องผลิตออกซิเจนรุ่นที่เสียงเบาที่สุดจะได้ไม่รบกวนผู้ป่วยเวลานอนหลับ โดยดูได้จากค่าระดับเสียงซึ่งมีหน่วยวัดเป็นเดซิเบล

 

 

 

การดูแลรักษาเครื่องออกซิเจน

 

1. ควรตั้งเครื่องผลิตออกซิเจนไว้ในบริเวณที่โล่งหรือที่ให้ลมผ่านสะดวก ควรวางห่างจากกำแพง อย่างน้อย 1 ฟุต ไม่ควรวางเครื่องผลิตออกซิเจนไว้ชิดกำแพง ห้ามวางเครื่องบนโฟม ฟูก พรม และหลีกเลี่ยงการวางเครื่องผลิตออกซิเจนในพื้นที่ที่ไม่สามารถถ่ายเทอากาศได้ดี

 

 2. การเปิดปิดเครื่องผลิตออกซิเจนแต่ละครั้งควรเว้นระยะเวลาให้เครื่องเซ็ตอัพอย่างน้อย 5 นาที

 

 3. ก่อนใช้ฟังก์ชั่นพ่นยาต้องปรับระดับอัตราการไหลของออกซิเจนเป็น 0 ลิตรต่อนาที ก่อนทุกครั้ง

 

 4. เครื่องผลิตออกซิเจนจะไม่สามารถทำงานได้ ในกรณีไฟฟ้าดับหรือไม่มีไฟฟ้า

 

 5. เครื่องผลิตออกซิเจนจะไม่สามารถทำงานได้ ในกรณีกระแสไฟฟ้าตกเกิน 10% จากกระแสไฟที่จ่าย

 

 6. ในกรณีที่ไม่ใช้งานเครื่องผลิตออกซิเจนควรดึงปลั๊กไฟออกทุกครั้ง

 

 7. ในกรณีเคลื่อนย้ายเครื่องผลิตออกซิเจนต้องวางเครื่องผลิตออกซิเจนในแนวตั้งเท่านั้น และถอดกระป๋องนํ้าให้ความชื้น ออกจากเครื่องทุกครั้ง

 

 8. ในกรณีเครื่องผลิตออกซิเจนมีปัญหาขัดข้องหรือไม่สามารถใช้งานได้ กรุณาติดต่อบริษัทฯ ผู้จัดจำหน่าย

 

 9. ควรหมั่นทำความสะอาดภายนอกเครื่องผลิตออกซิเจนโดยใช้ผ้าชุบนํ้าหมาดๆ เช็ดให้ทั่วและใช้นํ้ายาฆ่าเชื้อ เช็ดอีกครั้งอย่างสมํ่าเสมอ

 

 10. ควรทำความสะอาดไส้กรองข้างเครื่องผลิตออกซิเจนทุกสัปดาห์ โดยล้างนํ้าและผึ่งลมให้แห้ง

 

 11. ควรเปลี่ยนไส้กรองในเครื่องผลิตออกซิเจนอย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน (ติดต่อบริษัทฯ ผู้จัดจำหน่าย)

 

 

 

คลิกชมสินค้าทั้งหมด